ต่อใบขับขี่รถยนต์
ใบขับขี่รถยนต์

ต่อใบขับขี่ปี 2567 ต้องรู้อะไรบ้าง?

การขับขี่ยานพาหนะบนท้องถนนอย่างถูกกฎหมายเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ขับขี่ทุกคนต้องตระหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีใบขับขี่รถยนต์ที่ยังไม่หมดอายุ แต่หลายคนอาจสงสัยว่าการต่อใบขับขี่ในปี 2567 มีขั้นตอนอย่างไร ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง และมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ บทความนี้ เงินให้ใจจะไขข้อข้องใจทั้งหมดเกี่ยวกับการต่อใบขับขี่ ทั้งแบบ 2 ปีและ 5 ปี พร้อมทั้งให้ข้อมูลสำคัญที่คุณควรรู้ก่อนไปต่อใบขับขี่ในปี 2567

ต่อใบขับขี่รถยนต์

การต่ออายุใบขับขี่แบบ 2 ปี เป็น 5 ปี

สำหรับผู้ที่เพิ่งทำใบขับขี่รถยนต์ครั้งแรก จะได้รับใบขับขี่แบบชั่วคราวที่มีอายุ 2 ปี เมื่อใบขับขี่ใกล้หมดอายุหรือหมดอายุแล้ว จำเป็นต้องต่ออายุเป็นแบบ 5 ปี ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้

เอกสารที่ต้องใช้

- ใบขับขี่รถยนต์เดิม

- บัตรประชาชนฉบับจริง

- ใบรับรองแพทย์ที่ออกไม่เกิน 1 เดือนก่อนวันยื่นคำขอ

ขั้นตอนการดำเนินการ

  • ตรวจสอบเอกสารและออกคำขอ
  • ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ซึ่งประกอบด้วย
  • การทดสอบการมองเห็นสี (เขียว เหลือง แดง)
  • การทดสอบสายตาทางลึก
  • การทดสอบสายตาทางกว้าง
  • การทดสอบปฏิกิริยาเท้าโดยการเหยียบเบรกหลังเห็นไฟสัญญาณ
  • ถ่ายรูปและพิมพ์ใบขับขี่

ค่าใช้จ่าย 505 บาท (ค่าใบขับขี่ 500 บาท + ค่าคำขอ 5 บาท)

การต่ออายุใบขับขี่แบบ 5 ปี เป็น 5 ปี

สำหรับผู้ที่มีใบขับขี่รถยนต์แบบ 5 ปีอยู่แล้ว เมื่อใกล้หมดอายุหรือหมดอายุแล้ว สามารถต่ออายุได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้

เอกสารที่ต้องใช้

- ใบขับขี่รถยนต์เดิมหรือใบแทน

- บัตรประชาชนฉบับจริง

- ใบรับรองแพทย์ที่ออกไม่เกิน 1 เดือนก่อนวันยื่นคำขอ

ขั้นตอนการดำเนินการ

  • ตรวจสอบเอกสารและออกคำขอ
  • ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย (เหมือนกับการต่อแบบ 2 ปีเป็น 5 ปี)
  • อบรมต่อใบขับขี่เป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
  • ถ่ายรูปและพิมพ์ใบขับขี่

ค่าใช้จ่าย 505 บาท (ค่าใบขับขี่ 500 บาท + ค่าคำขอ 5 บาท)

การต่อใบขับขี่ล่วงหน้า

ทั้งการต่ออายุใบขับขี่รถยนต์แบบ 2 ปีเป็น 5 ปี และแบบ 5 ปีเป็น 5 ปี สามารถต่อล่วงหน้าได้ไม่เกิน 6 เดือนก่อนวันหมดอายุ ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกและช่วยลดความเสี่ยงในการขับขี่โดยใช้ใบขับขี่ที่หมดอายุ

กรณีขาดต่อใบขับขี่

หากคุณลืมต่ออายุใบขับขี่รถยนต์จนเลยกำหนด มีข้อควรรู้ดังนี้

- กรณีใบขับขี่สิ้นอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี: ต้องสอบข้อเขียนใหม่

- กรณีใบขับขี่สิ้นอายุเกิน 3 ปี: ต้องอบรม สอบข้อเขียน และทดสอบขับรถใหม่

ข้อควรรู้เพิ่มเติมในการต่อใบขับขี่ปี 2567

1. การเตรียมตัวก่อนไปต่อใบขับขี่รถยนต์

- ตรวจสอบวันหมดอายุของใบขับขี่ล่วงหน้า

- เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน โดยเฉพาะใบรับรองแพทย์ที่ต้องมีอายุไม่เกิน 1 เดือน

- หากมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนขอใบรับรองแพทย์

2. การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย

- ฝึกการมองเห็นสีและทดสอบสายตาด้วยตนเองก่อน

- หากสวมแว่นตา ควรนำไปด้วยในวันทดสอบ

- ฝึกปฏิกิริยาการเหยียบเบรกให้รวดเร็ว

3. การอบรมต่อใบขับขี่

- เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการอบรม 1 ชั่วโมง

- จดบันทึกข้อมูลสำคัญระหว่างการอบรม เพื่อนำไปใช้ในการขับขี่อย่างปลอดภัย

4. ทางเลือกในการต่อใบขับขี่

- นอกจากการต่อที่สำนักงานขนส่ง ยังสามารถต่อผ่านศูนย์บริการร่วมกระทรวงคมนาคม หรือที่ไปรษณีย์ไทยบางสาขา

- ติดตามข่าวสารการให้บริการต่อใบขับขี่ออนไลน์ ซึ่งอาจมีการพัฒนาในอนาคต

5. การเตรียมตัวสำหรับการสอบข้อเขียนใหม่ (กรณีขาดต่อ)

- ศึกษากฎจราจรและป้ายจราจรให้เข้าใจ

- ทำแบบทดสอบออนไลน์เพื่อเตรียมความพร้อม

- สอบถามเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับเนื้อหาที่ใช้ในการสอบ

6. การดูแลรักษาใบขับขี่

- เก็บใบขับขี่ในที่ปลอดภัย ไม่เสี่ยงต่อการสูญหายหรือเสียหาย

- หลีกเลี่ยงการพับหรืองอใบขับขี่รถยนต์ เพื่อป้องกันการชำรุด

- ทำสำเนาใบขับขี่เก็บไว้ในกรณีที่ต้องใช้เป็นหลักฐานประกอบการทำธุรกรรมต่างๆ

สรุป

การต่อใบขับขี่เป็นหน้าที่สำคัญของผู้ขับขี่ทุกคน การเตรียมตัวล่วงหน้าและทำความเข้าใจขั้นตอนต่างๆ จะช่วยให้กระบวนการต่อใบขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการต่อแบบ 2 ปีเป็น 5 ปี หรือ 5 ปีเป็น 5 ปี การรู้จักวางแผนต่อล่วงหน้าและเข้าใจผลกระทบของการขาดต่อ จะช่วยให้คุณสามารถใช้ใบขับขี่รถยนต์ได้อย่างต่อเนื่องและถูกกฎหมาย นำไปสู่ความปลอดภัยบนท้องถนนและความสบายใจในการขับขี่ยานพาหนะ

สำหรับใครที่ต้องการเงินด่วน สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือ และบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ เงินให้ใจ

“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Website : https://www.ngernhaijai.com/

Line : https://bit.ly/3zDd5Kz

เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899

เผยแพร่ 16 ส.ค. 2567

บทความอื่น ๆ

ร้านค้าออนไลน์

อยากเด่นต้องแตกต่าง! รวมทริคดันร้านเสื้อผ้าออนไลน์ให้โดดเด่นเหนือคู่แข่ง

เปิดร้านค้าออนไลน์ ขายเสื้อผ้ายังไงให้โดดเด่นเหนือคู่แข่ง? รวมเทคนิคปั้นธุรกิจเสื้อผ้าให้โต พร้อมไอเดียขยายธุรกิจด้วยเงินกู้ถูกกฎหมาย

เผยแพร่ 17 เม.ย. 2568

รถคันแรก

รถคันแรกในชีวิต เลือกแบบไหนให้เหมาะสมกับตัวเอง

รถคันแรกเลือกแบบไหนดี? เทียบข้อดีรถน้ำมัน รถไฟฟ้า รถครอบครัว และรถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันที่สุด พร้อมเทคนิคเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์คุณ

เผยแพร่ 17 เม.ย. 2568

ซื้อรถมือสอง

แชร์ด่วน! ซื้อรถมือสองอย่างไรให้ได้ราคาดีที่สุด

ซื้อรถมือสองอย่างไรให้ได้ราคาดี? เช็กลิสต์ก่อนออกรถมือสอง เลี่ยงรถย้อมแมว ต่อรองอย่างโปร พร้อมเทคนิคขายรถมือสองไม่ขาดทุน

เผยแพร่ 17 เม.ย. 2568