ใบขับขี่รถยนต์หาย ทำอย่างไรต่อดี?
คุณเคยรู้สึกหัวใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มเมื่อค้นหาใบขับขี่แล้วพบว่ามันหายไปอย่างไร้ร่องรอยไหม? ไม่ต้องตกใจไป แม้ว่าการทำใบขับขี่หายจะเป็นเรื่องน่าปวดหัว แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อย่างที่คิด วันนี้ เงินให้ใจจะพาคุณไปเจาะลึกวิธีจัดการกับสถานการณ์นี้อย่างมืออาชีพ พร้อมเผยเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณได้ใบขับขี่ใหม่อย่างรวดเร็วทันใจ
เมื่อใบขับขี่หาย ต้องแจ้งความหรือไม่?
หลายคนอาจเคยได้ยินว่าเมื่อใบขับขี่หาย สิ่งแรกที่ต้องทำคือแจ้งความ แต่รู้หรือไม่ว่าปัจจุบันกฎเกณฑ์นี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว เพราะทางการได้ปรับลดขั้นตอนยุ่งยากนี้ออกไป เพื่อให้ประชาชนสามารถจัดการเรื่องใบขับขี่หายได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
กรณีใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล
ข่าวดีคือเพียงแค่เตรียมบัตรประชาชนตัวจริง หรือเอกสารทางราชการอื่นๆ ที่มีรูปถ่ายและเลขประจำตัวประชาชน ก็สามารถไปติดต่อขอทำใบแทนได้ทันที
กรณีใบขับขี่รถสาธารณะ
สำหรับคนขับรถสาธารณะ เช่น แท็กซี่ หรือรถตู้ คุณยังคงต้องแจ้งใบขับขี่หายที่สถานีตำรวจในพื้นที่ก่อน เพื่อนำใบแจ้งความไปเป็นหลักฐานในการขอทำใบแทน
ขั้นตอนการทำใบขับขี่ใหม่แบบเร่งด่วน
1. จองคิวออนไลน์ให้ไว : ใช้แอปพลิเคชัน DLT Smart Queue เพื่อจองคิวล่วงหน้า ประหยัดเวลารอคิวที่กรมขนส่งทางบก
2. เตรียมเอกสารให้พร้อม : นอกจากบัตรประชาชนแล้ว อย่าลืมเตรียมสำเนาทะเบียนบ้าน และใบรับรองแพทย์ (ถ้าจำเป็น) ให้ครบถ้วน
3. เลือกสำนักงานขนส่งที่สะดวก : ไม่จำเป็นต้องไปที่สำนักงานในพื้นที่ที่คุณอยู่ เลือกสาขาที่สะดวกที่สุดสำหรับคุณ
4. กรอกแบบฟอร์มให้ครบถ้วน : ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนยื่น เพื่อหลีกเลี่ยงการแก้ไขภายหลัง
5. ชำระค่าธรรมเนียม : เตรียมเงินสด 205 บาท สำหรับค่าธรรมเนียมการทำใบแทน
6. รับใบแทนใบอนุญาตขับขี่ : หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลเรียบร้อย คุณจะได้รับใบแทนทันที
เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับการทำใบขับขี่ใหม่
1. เช็คอายุใบขับขี่ : หากใบขับขี่หายนานเกิน 1 ปี คุณอาจต้องเข้ารับการอบรมใหม่ ดังนี้
- หายไม่เกิน 3 ปี: อบรม 2-5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับประเภทใบขับขี่
- หายเกิน 3 ปี: อบรม 2-5 ชั่วโมง และอาจต้องสอบข้อเขียนใหม่
2. ใช้บริการ Drive Thru : บางสำนักงานขนส่งมีบริการ Drive Thru สำหรับการทำใบแทน ซึ่งสะดวกและรวดเร็วกว่า
3. เตรียมรูปถ่าย : แม้ว่าปัจจุบันจะมีบริการถ่ายรูป ณ จุดบริการ แต่การเตรียมรูปถ่ายไปเองอาจช่วยประหยัดเวลาได้
ใบขับขี่หาย แล้วถูกจับได้จะทำอย่างไร?
หากคุณโชคร้ายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจในขณะที่ใบขับขี่หาย อย่าตกใจ ให้ปฏิบัติดังนี้
1. แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที : อธิบายสถานการณ์อย่างสุภาพว่าใบขับขี่หาย และคุณกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการทำใบแทน
2. แสดงบัตรประชาชน : ใช้บัตรประชาชนเป็นหลักฐานยืนยันตัวตนแทน
3. ขอเวลาดำเนินการ : เจ้าหน้าที่อาจให้เวลาคุณไปทำใบแทนภายใน 7 วัน
4. หลีกเลี่ยงการขับรถ : หากเป็นไปได้ ควรหลีกเลี่ยงการขับรถจนกว่าจะได้ใบแทน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
ใบขับขี่หายแล้วเกิดอุบัติเหตุ จะเคลมประกันได้ไหม?
หลายคนกังวลว่าเมื่อใบขับขี่หายแล้วเกิดอุบัติเหตุ จะไม่สามารถเคลมประกันได้ แต่ความจริงแล้วไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป
1. กรณีเป็นฝ่ายถูก : คุณยังคงได้รับความคุ้มครองตามปกติ ทั้งค่าซ่อมรถ ค่ารักษาพยาบาล และค่าสินไหมทดแทน
2. กรณีเป็นฝ่ายผิด :
- หากคุณเคยมีใบขับขี่มาก่อน แต่หายหรือหมดอายุ บริษัทประกันส่วนใหญ่จะยังให้ความคุ้มครอง
- หากคุณไม่เคยมีใบขับขี่มาก่อน บริษัทประกันอาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้
3. กรณีใบขับขี่ถูกยึด : ให้คัดลอกสำเนาบันทึกประจำวันจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการเคลมประกัน
เทคนิคป้องกันใบขับขี่หายในอนาคต
1. ใช้ซองใส่บัตรพิเศษ : เลือกซองที่มีการป้องกันการสแกน RFID เพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหล
2. ถ่ายรูปเก็บไว้ : ถ่ายรูปใบขับขี่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เก็บไว้ในโทรศัพท์หรือคลาวด์ส่วนตัว
3. ใช้แอปเก็บข้อมูลสำคัญ : มีแอปพลิเคชันหลายตัวที่ช่วยเก็บข้อมูลสำคัญแบบปลอดภัย ลองหามาใช้ดู
4. ทำสำเนาเก็บไว้ที่บ้าน : เก็บสำเนาใบขับขี่ไว้ในที่ปลอดภัยที่บ้าน เผื่อกรณีฉุกเฉิน
5. ตรวจสอบกระเป๋าสม่ำเสมอ : หมั่นตรวจดูว่าใบขับขี่อยู่ในที่ที่ควรอยู่เสมอ
สรุป
การทำใบขับขี่หายอาจเป็นเรื่องน่าปวดหัว แต่ด้วยขั้นตอนที่ง่ายขึ้นในปัจจุบัน คุณสามารถจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ การเตรียมตัวให้พร้อมและรู้ขั้นตอนที่ถูกต้องจะช่วยลดความเครียดและความยุ่งยากลงได้มาก อย่าลืมว่า การมีสติและจัดการอย่างเป็นระบบเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหานี้ และที่สำคัญที่สุด ให้ระมัดระวังในการเก็บรักษาใบขับขี่ของคุณเพื่อป้องกันการสูญหายในอนาคต
สำหรับใครที่ต้องการเงินด่วน สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/
กู้เท่าที่จำเป็น และชำระคืนไหว
สินเชื่อแบบโอนเล่มทะเบียนรถ อัตราดอกเบี้ยคงที่ รถส่วนบุคคล เริ่มต้น 3.10% - 8.65% ต่อปี
และ รถเชิงพาณิชย์ เริ่มต้น 3.10% - 15.00% ต่อปี
สินเชื่อแบบจำนำเล่มทะเบียน อัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอก เริ่มต้น 12.82% - 24.00% ต่อปี
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.ngernhaijai.com/
Line : https://bit.ly/3zDd5Kz
เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899
เผยแพร่ 7 พ.ย. 2567
บทความอื่น ๆ
อัปเดตค่าโอนรถยนต์ 2567 ต้องเตรียมเงินเท่าไหร่
เจาะลึกค่าใช้จ่ายในการโอนรถยนต์ปี 2567 พร้อมเทคนิคการประหยัดและวิธีคำนวณค่าโอนแบบละเอียด รู้ก่อนใคร เตรียมตัวให้พร้อมก่อนไปกรมขนส่ง
เผยแพร่ 7 พ.ย. 2567
โอนรถยนต์ใช้เอกสารอะไรบ้าง โอนข้ามจังหวัดได้หรือไม่
เจาะลึกขั้นตอนการโอนรถยนต์ พร้อมเปิดโปงเอกสารสำคัญที่ต้องเตรียม และวิธีโอนรถข้ามจังหวัดแบบไม่ต้องเดินทาง เรียนรู้เทคนิคประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการโอนรถ
เผยแพร่ 7 พ.ย. 2567
เช็กรถก่อนขอสินเชื่อรถยนต์ จุดไหนที่ต้องดูบ้าง?
เจาะลึกจุดสำคัญในการเช็กรถก่อนขอสินเชื่อ พร้อมเทคนิคการตรวจสอบที่ช่วยเพิ่มโอกาสการอนุมัติและมูลค่าสินเชื่อรถยนต์ เรียนรู้วิธีประเมินสภาพรถอย่างมืออาชีพ
เผยแพร่ 7 พ.ย. 2567