

การคำนวณภาษีรถแต่ละประเภท ปี 2568
หน้าที่ของเจ้าของรถทุกคนคือการที่ต้องชำระภาษีรถยนต์ประจำปีตามกฎหมาย เพื่อให้สามารถใช้รถบนท้องถนนได้อย่างถูกต้อง การต่อภาษีรถยนต์ไม่เพียงช่วยหลีกเลี่ยงการเสียค่าปรับ แต่ยังเป็นการรับผิดชอบต่อสังคมอีกด้วย บทความนี้จะแนะนำวิธีคำนวณภาษีรถยนต์แต่ละประเภทอย่างละเอียด พร้อมช่องทางเช็คภาษีรถยนต์ออนไลน์ที่สะดวกรวดเร็ว
วิธีคำนวณต่อ ภาษีรถยนต์นั่งส่วนบุคคล (รถเก๋ง 4 ประตู)
รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง (ป้ายทะเบียนพื้นขาว ตัวหนังสือสีดำ) คำนวณภาษีตามความจุของเครื่องยนต์ โดยคิดแบบขั้นบันได ดังนี้
1. 600 ซีซี แรก คิดอัตรา 0.50 บาทต่อซีซี
2. 601-1,800 ซีซี คิดอัตรา 1.50 บาทต่อซีซี
3. 1,801 ซีซีขึ้นไป คิดอัตรา 4.00 บาทต่อซีซี
สำหรับรถที่มีอายุเกิน 5 ปี (นับจากวันที่จดทะเบียนครั้งแรก) จะได้รับส่วนลดภาษีตามอายุรถ
- รถอายุ 6 ปี ลด 10%
- รถอายุ 7 ปี ลด 20%
- รถอายุ 8 ปี ลด 30%
- รถอายุ 9 ปี ลด 40%
- รถอายุ 10 ปีขึ้นไป ลด 50%
ตัวอย่างการคำนวณภาษีรถยนต์ 4 ประตู (เครื่อง 1,500 ซีซี)
600 ซีซี แรก : 600 x 0.50 = 300 บาท
601-1,500 ซีซี : (1,500 - 600) x 1.50 = 900 x 1.50 = 1,350 บาท
รวมภาษีที่ต้องชำระ : 300 + 1,350 = 1,650 บาท
หากรถมีอายุ 8 ปี จะได้ส่วนลด 30%
- ภาษีที่ต้องชำระ : 1,650 - (1,650 x 30%) = 1,650 - 495 = 1,155 บาท
ภาษีรถกระบะและรถบรรทุกส่วนบุคคล (2 ประตู)
รถกระบะ 2 ประตู รถกระบะแค็ป และรถบรรทุกส่วนบุคคล (ป้ายทะเบียนพื้นขาว ตัวหนังสือสีเขียว) คำนวณภาษีตามน้ำหนักรถ ดังนี้
- น้ำหนัก 0-500 กก. = 300 บาท
- น้ำหนัก 501-750 กก. = 450 บาท
- น้ำหนัก 751-1,000 กก. = 600 บาท
- น้ำหนัก 1,001-1,250 กก. = 750 บาท
- น้ำหนัก 1,251-1,500 กก. = 900 บาท
- น้ำหนัก 1,501-1,750 กก. = 1,050 บาท
- น้ำหนัก 1,751-2,000 กก. = 1,350 บาท
- น้ำหนัก 2,001-2,500 กก. = 1,650 บาท
- น้ำหนัก 2,501-3,000 กก. = 1,950 บาท
- น้ำหนัก 3,001-3,500 กก. = 2,250 บาท
- น้ำหนัก 3,501-4,000 กก. = 2,550 บาท
- น้ำหนัก 4,001-4,500 กก. = 2,850 บาท
- น้ำหนัก 4,501-5,000 กก. = 3,150 บาท
- น้ำหนัก 5,001-6,000 กก. = 3,450 บาท
- น้ำหนัก 6,001-7,000 กก. = 3,750 บาท
- น้ำหนัก 7,001 กก. ขึ้นไป = 4,050 บาท
ภาษีรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน
รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน เช่น รถตู้ รถอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ คำนวณภาษีตามน้ำหนักรถเช่นกัน แต่มีอัตราที่แตกต่างจากรถบรรทุกส่วนบุคคล
- น้ำหนัก 0-500 กก. = 150 บาท
- น้ำหนัก 501-750 กก. = 300 บาท
- น้ำหนัก 751-1,000 กก. = 450 บาท
- น้ำหนัก 1,001-1,250 กก. = 800 บาท
- น้ำหนัก 1,251-1,500 กก. = 1,000 บาท
- น้ำหนัก 1,501-1,750 กก. = 1,300 บาท
- น้ำหนัก 1,751-2,000 กก. = 1,600 บาท
- น้ำหนัก 2,001-2,500 กก. = 1,900 บาท
- น้ำหนัก 2,501-3,000 กก. = 2,200 บาท
- น้ำหนัก 3,001-3,500 กก. = 2,400 บาท
- น้ำหนัก 3,501-4,000 กก. = 2,600 บาท
- น้ำหนัก 4,001-4,500 กก. = 2,800 บาท
- น้ำหนัก 4,501-5,000 กก. = 3,000 บาท
- น้ำหนัก 5,001-6,000 กก. = 3,200 บาท
- น้ำหนัก 6,001-7,000 กก. = 3,400 บาท
- น้ำหนัก 7,001 กก. ขึ้นไป = 3,600 บาท
ภาษีรถยนต์ไฟฟ้า (EV)
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า การคำนวณภาษีจะแตกต่างออกไป โดยใช้หลักการคำนวณตามประเภทรถและกำลังมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งมีอัตราพิเศษเพื่อส่งเสริมการใช้ยานยนต์สะอาด ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าควรตรวจสอบข้อมูลภาษีล่าสุดจากกรมการขนส่งทางบก
วิธีเช็คภาษีรถยนต์ออนไลน์
ในปี 2568 นี้ การต่อภาษีรถยนต์และการเช็คภาษีรถยนต์ออนไลน์เป็นเรื่องที่สะดวกมากขึ้น ด้วยระบบออนไลน์ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เจ้าของรถสามารถตรวจสอบและชำระภาษีได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปติดต่อที่สำนักงานขนส่ง ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
การเช็คภาษีรถยนต์ออนไลน์ทำได้ง่ายและสะดวก ผ่านเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก eservice.dlt.go.th โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. เข้าเว็บไซต์ eservice.dlt.go.th
2. เลือกเมนู "ตรวจสอบการชำระภาษีรถ"
3. กรอกข้อมูลที่จำเป็น :
- ประเภทรถที่จดทะเบียน
- จังหวัดที่จดทะเบียน
- เลขทะเบียนรถ
- เลขบัตรประจำตัวประชาชน
4. กดตรวจสอบ ระบบจะแสดงข้อมูลภาษีที่ต้องชำระทันที
นอกจากนี้ ยังสามารถต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ได้ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Service หรือเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก โดยเฉพาะรถที่มีอายุเกิน 7 ปีก็สามารถต่อภาษีออนไลน์ได้แล้วในปัจจุบัน
สรุป
การเช็คภาษีรถยนต์และการชำระภาษีรถยนต์ประจำปีเป็นหน้าที่สำคัญของเจ้าของรถทุกคน การทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีคำนวณภาษีรถยนต์แต่ละประเภทจะช่วยให้คุณวางแผนค่าใช้จ่ายได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถกระบะ หรือรถบรรทุก ทุกคันล้วนมีวิธีคิดภาษีที่แตกต่างกันตามประเภทและขนาดของรถ
อย่าลืมชำระภาษีรถยนต์ให้ตรงเวลาเพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับและปัญหาทางกฎหมาย การเช็คภาษีรถยนต์ล่วงหน้าจะช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้ดียิ่งขึ้น และมีเวลาเตรียมเอกสารที่จำเป็นได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ การต่อภาษีรถยนต์ยังถือเป็นการมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบคมนาคมของประเทศอีกด้วย
สำหรับใครที่ต้องการเงินด่วน สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/
“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.ngernhaijai.com/
Line : https://bit.ly/3zDd5Kz
เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899
เผยแพร่ 19 มี.ค. 2568
บทความอื่น ๆ

การปรับโครงสร้างหนี้ มีกี่แบบ?
การปรับโครงสร้างหนี้มีกี่แบบ? เรียนรู้ 6 รูปแบบที่ช่วยแก้ปัญหาเมื่อผ่อนรถไม่ไหว พร้อมทั้งวิธีพักชำระหนี้และแนวทางแก้ให้ประวัติการชำระหนี้ดี เพื่อให้ภาระหนี้สินของคุณเบาลง
เผยแพร่ 19 มี.ค. 2568

ทำอย่างไร เมื่อถูกอายัดเงินเดือน?
เมื่อถูกอายัดเงินเดือนจากหนี้เสีย ควรทำอย่างไร? เรียนรู้วิธีรับมือ ขั้นตอนทางกฎหมาย และป้องกันการถูกอายัดเงินเดือนได้เท่าไหร่ รวมถึงการจัดการหนี้เสียบัตรเครดิต
เผยแพร่ 19 มี.ค. 2568

เปลี่ยนสีรถอย่าลืมแจ้ง! 4 ขั้นตอนแจ้งเปลี่ยนสีรถ ต้องแจ้งภายในกี่วัน
เปลี่ยนสีรถครั้งใหม่ ต้องรู้! 4 ขั้นตอนแจ้งเปลี่ยนสีรถอย่างถูกต้อง พร้อมเคล็ดลับการแจ้งภายในระยะเวลาที่กำหนด เช็กเลยก่อนโดนปรับ!
เผยแพร่ 19 มี.ค. 2568