

เทคนิคเลือกซื้อรถครอบครัวมือสอง ไม่พลาดทุกจุดสำคัญ
การซื้อรถครอบครัวหรือรถครอบครัว 7 ที่นั่งมือสองอาจเป็นทางเลือกที่ฉลาดสำหรับครอบครัวที่ต้องการประหยัดเงิน แต่ก็มีความเสี่ยงบางอย่างที่ต้องพิจารณา วันนี้ เงินให้ใจจะมาแชร์เทคนิคในการเลือกซื้อรถครอบครัวมือสอง ที่จะช่วยให้คุณไม่พลาดทุกจุดสำคัญ และได้รถที่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป!
เหตุผลที่ควรเลือกซื้อรถครอบครัวมือสอง
หลายคนอาจจะชื่นชอบการออกรถมือหนึ่ง แต่การเลือกซื้อรถครอบครัว รถครอบครัว 7 ที่นั่งมือสองมีข้อดีเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นการประหยัดเงิน หลีกเลี่ยงการสูญเสียมูลค่า หรือได้รถที่มีอุปกรณ์ครบครัน ในราคาที่ย่อมเยากว่า ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวที่ต้องการรถใหญ่ แต่มีงบประมาณจำกัด
1. ประหยัดเงินกว่าซื้อรถใหม่ เพราะราคาจะต่ำกว่ามาก
2. หลีกเลี่ยงการสูญเสียมูลค่าจากการขับออกจากโชว์รูม
3. ได้รถที่มีอุปกรณ์ครบครัน ในราคาที่ย่อมเยากว่า
4. เหมาะสำหรับครอบครัวที่ต้องการรถใหญ่ แต่งบไม่พอซื้อรถใหม่
จุดสำคัญในการเลือกซื้อรถครอบครัวมือสอง
แม้ว่ารถครอบครัวหรือรถครอบครัว 7 ที่นั่งมือสองจะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีหลายจุดที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รถที่คุ้มค่าและปลอดภัยที่สุด ตั้งแต่การตรวจสอบสภาพรถ ไปจนถึงการคำนวณงบประมาณ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
1. ตรวจสอบสภาพรถอย่างละเอียด
การตรวจสอบสภาพรถเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญมาก เพราะรถมือสองแต่ละคันย่อมมีการใช้งานและการดูแลรักษาที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อสภาพโดยรวมของรถ ดังนั้น ควรตรวจสอบให้ครอบคลุมทุกจุด ทั้งภายนอก ภายใน และใต้ท้องรถ รวมถึงระบบต่างๆ ที่สำคัญ เช่น
- ตรวจสอบทั้งภายนอกและภายในรถ โดยเฉพาะระบบต่างๆ เช่น เบรก เกียร์ เครื่องยนต์
- ดูรอยบุบ รอยชน และสภาพใต้ท้องรถ เพื่อหาร่องรอยความเสียหายที่อาจมองไม่เห็นจากภายนอก
- ทดลองขับเพื่อสัมผัสสมรรถนะของรถด้วยตัวเอง ว่าเครื่องยนต์และระบบต่างๆ ทำงานได้ปกติดีหรือไม่
- ตรวจสอบยางรถทั้ง 4 เส้น ดูดอกยาง สภาพยาง และอายุการใช้งานของยาง
- สังเกตกลิ่นผิดปกติภายในรถ เช่น กลิ่นอับชื้น กลิ่นน้ำมัน ซึ่งอาจบ่งบอกถึงปัญหาที่ซ่อนอยู่
2. เช็คประวัติการใช้งานของรถ
นอกจากการตรวจสอบสภาพรถแล้ว การดูประวัติการใช้งานก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะจะทำให้เรารู้ว่ารถคันนี้ผ่านการใช้งานมาอย่างไร มีการดูแลรักษาเป็นอย่างดีหรือไม่ ซึ่งจะช่วยในการตัดสินใจซื้อได้มากขึ้น โดยสิ่งที่ควรตรวจสอบ ได้แก่
- ขอดูประวัติการซ่อมบำรุง เช่น สมุดบันทึกการเข้าศูนย์ เพื่อดูว่ามีการดูแลรักษาตามระยะหรือไม่
- ตรวจสอบเลขไมล์ว่าตรงกับอายุการใช้งานของรถหรือไม่ ป้องกันการปลอมแปลงเลขไมล์
- ตรวจสอบเอกสารการโอนกรรมสิทธิ์ และประวัติการเป็นเจ้าของรถคันนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหาทางกฎหมาย
- หากเป็นไปได้ ลองสอบถามเจ้าของเดิมถึงเหตุผลในการขายรถ และข้อมูลการใช้งานที่ผ่านมา
3. เลือกรถที่มีเบาะนั่งอย่างน้อย 7 ที่นั่ง
สำหรับรถครอบครัว รถครอบครัว 7 ที่นั่งแล้ว จำนวนเบาะนั่งถือเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะต้องสามารถรองรับสมาชิกทุกคนในครอบครัวได้อย่างเพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ หรือลูกๆ หลายคน ดังนั้น ควรเลือกรถที่มีเบาะนั่งอย่างน้อย 7 ที่นั่งขึ้นไป เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทาง
- รถครอบครัวที่ดีควรมี 7 ที่นั่งขึ้นไป เพื่อให้สมาชิกทุกคนนั่งได้สบาย
- พ่อแม่ ลูกๆ ไม่ต้องอัดแน่นจนอึดอัด โดยเฉพาะเวลาเดินทางไกล
- ควรเลือกเบาะนั่งที่มีที่วางแขนและพนักพิงศีรษะ เพื่อความสะดวกสบายและปลอดภัยมากขึ้น
- แถวที่ 2 และ 3 ควรพับเก็บได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระยามจำเป็น
4. ดูพื้นที่เก็บสัมภาระให้เพียงพอ
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาในการเลือกรถครอบครัว รถครอบครัว 7 ที่นั่งมือสอง คือพื้นที่สำหรับเก็บสัมภาระ ซึ่งครอบครัวมักจะมีของจำเป็นต้องขนย้ายค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็น รถเข็นเด็ก ของเล่น หรืออุปกรณ์ต่างๆ จึงต้องเลือกรถที่มีพื้นที่เก็บของเพียงพอ และจัดวางของได้อย่างเป็นระเบียบ
- เลือกรถที่พื้นที่ด้านหลังกว้างขวาง เพื่อใส่ของจำเป็นต่างๆ สำหรับครอบครัว
- ควรมีที่เก็บของหลายระดับ และพื้นที่ใต้เบาะ เพื่อการจัดเก็บสิ่งของให้เป็นระเบียบ
- พื้นที่เก็บสัมภาระด้านข้างและด้านหลังควรเข้าถึงได้ง่าย เพื่อความสะดวกในการขนย้ายของ
- อาจเลือกรถที่มี Roof Rack หรือราวหลังคา เพื่อเพิ่มพื้นที่วางสัมภาระเวลาเดินทางไกล
5. เลือกรถที่มีระบบความปลอดภัยครบครัน
สำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ ความปลอดภัยถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ดังนั้นจึงต้องเลือกรถมือสองที่มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยที่ครบครันและทันสมัย เพื่อการขับขี่ที่อุ่นใจยิ่งขึ้น ระบบที่ควรมี ได้แก่
- ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัย, ระบบเบรก ABS, ระบบควบคุมการทรงตัว ต้องมีให้ครบ
- แม้เป็นรถมือสอง ระบบความปลอดภัยเหล่านี้ต้องอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน
- ระบบช่วยเหลือการขับขี่อื่นๆ เช่น กล้องมองหลัง, เซ็นเซอร์ถอย ถือเป็นออปชั่นเสริมที่น่าสนใจ
- เข็มขัดนิรภัยสำหรับเด็ก (ISOFIX) ก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก
6. คำนวณงบประมาณให้รอบคอบ
ก่อนตัดสินใจซื้อรถครอบครัวมือสอง สิ่งสำคัญคือต้องประเมินสถานะทางการเงินของตัวเอง และคำนวณงบประมาณที่เหมาะสมทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง ซึ่งมีปัจจัยที่ต้องนำมาคิด ดังนี้
- ราคารถต้องไม่เกินกำลังการผ่อนชำระรายเดือนของครอบครัว
- อย่าลืมคำนวณค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา และค่าประกันภัยรถยนต์ด้วย
- หากจำเป็นต้องกู้ ให้หาแหล่งสินเชื่อที่ดอกเบี้ยต่ำ และวางแผนการชำระคืนอย่างรอบคอบ
- เผื่องบสำรองไว้สำหรับค่าซ่อมแซมที่อาจเกิดขึ้น เพราะรถมือสองมีโอกาสเสียมากกว่ารถใหม่
สรุป
แม้ว่าการซื้อรถครอบครัวมือสอง จะช่วยประหยัดเงินได้มาก แต่ก็ต้องทำการบ้านให้ดีก่อนตัดสินใจ ทั้งตรวจสอบสภาพรถ เช็คประวัติ ดูพื้นที่ใช้สอย ระบบความปลอดภัย ไปจนถึงการบริหารงบประมาณให้ดี เพื่อให้คุณได้รถที่คุ้มค่า ตอบโจทย์ทุกความต้องการของครอบครัวได้อย่างครบถ้วน
สำหรับใครที่ต้องการเงินด่วน สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/
“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.ngernhaijai.com/
Line : https://bit.ly/3zDd5Kz
เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899
เผยแพร่ 19 มี.ค. 2568
บทความอื่น ๆ

รถไฟฟ้า VS รถน้ำมัน แบบไหนดี แบบไหนน่าซื้อ?
รถไฟฟ้าหรือรถน้ำมัน เลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และงบประมาณ? เปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย ค่าใช้จ่าย และความคุ้มค่าในการใช้งานจริง พร้อมเคล็ดลับการตัดสินใจ
เผยแพร่ 19 มี.ค. 2568

วางแผนการเงินธุรกิจ SME อย่างไรให้รอดในยุคดิจิทัล
เทคนิควางแผนการเงินให้ธุรกิจ SME รอดในยุคดิจิทัล พร้อมเลือกใช้สินเชื่อธุรกิจอย่างชาญฉลาด เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
เผยแพร่ 19 มี.ค. 2568

วิธีดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ให้อายุยืน ประหยัดค่าซ่อมระยะยาว
เรียนรู้เทคนิคการดูแลรักษาแบตเตอรี่รถ 7 วิธี ที่จะช่วยให้แบตเตอรี่อายุยืน พร้อมสัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าแบตเตอรี่มีปัญหา
เผยแพร่ 19 มี.ค. 2568