

ยอดขายตก! ร้านอาหาร-ร้านค้าเล็กๆ ใช้สินเชื่อบริหารเงินสดอย่างไรให้รอด?
"Cash is King" ยังคงเป็นความจริงเสมอสำหรับการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะในช่วงที่ยอดขายตกต่ำ วิกฤตเศรษฐกิจหลายครั้งพิสูจน์แล้วว่า ธุรกิจที่อยู่รอดไม่ใช่ธุรกิจที่ใหญ่ที่สุด แต่เป็นธุรกิจที่บริหารกระแสเงินสดได้ดีที่สุด เมื่อร้านมีกระแสเงินสดที่ดี การบริหารค่าใช้จ่ายก็ไม่สะดุด หากเจอปัญหาก็ยังมีทุนสำรองช่วยประคองธุรกิจให้ดำเนินต่อไปได้ บทความนี้ เงินให้ใจจะแนะนำวิธีบริหารกระแสเงินสดเพื่อให้ธุรกิจ SME อยู่รอดและเติบโตได้แม้ในช่วงที่ยอดขายตกลง โดยไม่ต้องพึ่งพาสินเชื่อธุรกิจมากเกินไป หรือหากจำเป็นต้องใช้ก็สามารถใช้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
6 วิธีบริหารการเงินเมื่อยอดขายตก ไม่ให้เงินไม่พอใช้
1. จัดการสต็อกสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
การวางแผนการสั่งซื้อวัตถุดิบหรือสินค้าให้พอเหมาะกับยอดขายเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ เพื่อป้องกันเงินไม่พอใช้ เนื่องจากทุนจมอยู่กับสต็อกสินค้ามากเกินไป
- คำนวณยอดขายเฉลี่ยต่อวันของแต่ละสินค้า โดยนำจำนวนสินค้าที่ขายได้ในเดือนนั้นหารด้วย 30 วัน
- ตรวจสอบและติดตามสต็อกสินค้าอย่างแม่นยำ เพื่อรู้ว่าสินค้าใดขายดี-ขายไม่ดี
- ปรับการสั่งซื้อตามสถานการณ์ : ช่วงวิกฤต: ซื้อวัตถุดิบวันต่อวัน โดยเฉพาะสิ่งที่เสียง่าย, สถานการณ์ปกติ: ซื้อวัตถุดิบเผื่อขาย 2-3 วัน เพื่อจัดการสต็อกได้ง่ายขึ้น
การบริหารการเงินที่ดีควรคำนวณถึงค่าเดินทาง ค่าขนส่งวัตถุดิบ และประเมินจากกระแสเงินสดที่มีอยู่แบบวันต่อวันด้วย เพื่อรักษาเงินสดไว้ในมือให้ได้มากที่สุด
การหาสินเชื่อธุรกิจที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณมีความยืดหยุ่นในการซื้อวัตถุดิบตามความจำเป็น ทำให้สามารถสั่งซื้อได้ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ต้องกักตุนสินค้ามากเกินไปเพราะกลัวขาดสภาพคล่อง
2. ปรับเมนูขายหรือสินค้าตามความต้องการของตลาด
เมื่อยอดขายตก การปรับเมนูหรือสินค้าที่ขายช่วยแก้ปัญหาเงินไม่พอใช้ และเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
- เช็กดูว่าลูกค้าอยากทานอะไรหรือต้องการสินค้าแบบไหน
- ติดตามกระแสและทิศทางความต้องการของตลาด
- เลือกขายสินค้าที่มีคนค้นหามากที่สุด เพราะแสดงว่าเป็นสิ่งที่ตลาดต้องการ
- ลดหรือตัดเมนู/สินค้าที่มียอดขายไม่ดี เพื่อลดต้นทุนวัตถุดิบและสินค้าคงคลัง
ลองใช้สินเชื่อธุรกิจที่เหมาะสม เพื่อลงทุนในสินค้าหรือเมนูใหม่ที่มีแนวโน้มขายดีและคืนทุนเร็ว เช่น การซื้ออุปกรณ์สำหรับเมนูที่กำลังเป็นกระแส หรือซื้อวัตถุดิบเฉพาะทางที่ช่วยให้ร้านสร้างความแตกต่างได้
3. ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
การตรวจสอบและลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นเป็นวิธีบริหารการเงินที่ช่วยให้มีกระแสเงินสดหมุนเวียนมากขึ้น
- ตรวจสอบบัญชีรายจ่ายของธุรกิจทั้งรายเดือน รายไตรมาส และรายปี
- ลดการใช้น้ำ ไฟฟ้า ปิดเครื่องปรับอากาศในช่วงที่ลูกค้าน้อย
- เจรจาลดค่าเช่าชั่วคราวในช่วงวิกฤต
- พิจารณาจ้างพนักงานพาร์ทไทม์แทนพนักงานประจำในส่วนที่ไม่จำเป็น
- ยกเลิกบริการที่ไม่ค่อยได้ใช้ เช่น ซอฟต์แวร์บางประเภทที่จ่ายเป็นรายเดือนแต่ไม่ได้ใช้เต็มที่
แนะนำว่าอาจจะลองแก้ปัญหาเงินไม่พอใช้โดยใช้สินเชื่อธุรกิจเพื่อการลงทุน (SME Investment Loan) ในอุปกรณ์ประหยัดพลังงานที่ช่วยลดต้นทุนระยะยาว เช่น หลอดไฟ LED ระบบปรับอากาศประหยัดไฟ หรือเครื่องครัวที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวและคืนทุนได้
4. แปลงทรัพย์สินให้เป็นเงินสด
เมื่อประสบปัญหาเงินไม่พอใช้ การแปลงทรัพย์สินที่ไม่จำเป็นให้เป็นเงินสดเป็นทางเลือกที่ดี
- ขายอุปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้งานในร้าน เช่น ชั้นวางของ เก้าอี้ อุปกรณ์ครัว
- ระบายสต็อกสินค้าที่เริ่มเก่าด้วยการจัดโปรโมชั่นพิเศษ
- ต่อยอดวัตถุดิบที่มีในครัวให้เป็นเมนูใหม่ เช่น นำพริกแกงมาทำเป็นข้าวผัด หรือนำน้ำยำมาต่อยอดเป็นเมนูยำหลากหลายชนิด
หากมีทรัพย์สินที่จำเป็นต้องใช้แต่ต้องการเงินสด พิจารณาใช้สินเชื่อรถแลกเงินหรือสินเชื่อที่ใช้ทรัพย์สินค้ำประกัน (Asset-backed Loan) ซึ่งช่วยให้คุณได้เงินก้อนมาหมุนเวียนธุรกิจโดยไม่ต้องขายทรัพย์สินที่มีมูลค่าและยังจำเป็นต่อการดำเนินงานในอนาคต
5. บริหารงบดุลอย่างมีประสิทธิภาพ
การบริหารการเงินที่ดีต้องให้ความสำคัญกับงบดุลมากกว่ารายได้ โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตที่ยอดขายตก
- โฟกัสที่ 3 องค์ประกอบ: เจ้าหนี้การค้า ลูกหนี้การค้า และสินค้าคงเหลือ
- เจรจาขอยืดระยะเวลาการจ่ายเงินกับซัพพลายเออร์ให้นานขึ้น
- กระตุ้นให้ลูกค้าจ่ายเงินเร็วขึ้นด้วยการจัดโปรโมชั่นส่วนลดพิเศษสำหรับการชำระเงินทันที
- เก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อส่งข่าวสารโปรโมชั่นที่ตรงกับความต้องการ
การใช้สินเชื่อธุรกิจ ก็สามารถช่วยสร้างความยืดหยุ่นในการจ่ายซัพพลายเออร์และเจรจาเงื่อนไขที่ดีกว่า เช่น การใช้เงินกู้จ่ายซัพพลายเออร์ให้ตรงเวลาเพื่อรับส่วนลดเงินสด (cash discount) ซึ่งอาจช่วยประหยัดต้นทุนได้มากกว่าดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย
6. ใช้เทคโนโลยีช่วยในการบริหารกระแสเงินสด
การนำเทคโนโลยีมาช่วยจัดการระบบหลังบ้านทำให้การบริหารการเงินมีประสิทธิภาพมากขึ้น และป้องกันปัญหาเงินไม่พอใช้
- ใช้โปรแกรมบัญชีออนไลน์ เพื่อติดตามกระแสเงินสดได้แบบเรียลไทม์
- เลือกระบบ POS ที่สามารถเชื่อมต่อกับโปรแกรมบัญชีได้ เพื่อให้การจัดการร้านและดูบัญชีทำได้ง่ายขึ้น
- ใช้ซอฟต์แวร์บริหารสินค้าคงคลังเพื่อติดตามและวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวของสต็อกสินค้าอย่างแม่นยำ
พิจารณาใช้สินเชื่อธุรกิจ เพื่อลงทุนในระบบและซอฟต์แวร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารร้าน อย่างระบบ POS ที่ทันสมัย หรือโปรแกรมบริหารสต็อก ช่วยให้ติดตามยอดขาย วิเคราะห์ข้อมูล และบริหารเงินสดได้แม่นยำยิ่งขึ้น ป้องกันการสูญเสียรายได้จากความผิดพลาดในการจัดการ
เมื่อบริหารการเงินแล้วยังประสบปัญหาเงินไม่พอใช้ สินเชื่อธุรกิจคืออีกทางเลือก
หากคุณได้ใช้ทุกวิธีข้างต้นแล้วยังประสบปัญหาเงินไม่พอใช้ การใช้สินเชื่อธุรกิจอย่างชาญฉลาดอาจเป็นทางออกที่เหมาะสม โดยควรพิจารณาดังนี้
1. เลือกประเภทสินเชื่อธุรกิจให้เหมาะกับวัตถุประสงค์
สินเชื่อธุรกิจแต่ละประเภทเหมาะกับการแก้ปัญหาเงินไม่พอใช้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน
- วงเงินเบิกเกินบัญชี (OD) : เหมาะสำหรับปัญหาเงินไม่พอใช้ระยะสั้น เบิกใช้ได้ตามความต้องการและจ่ายดอกเบี้ยเฉพาะส่วนที่ใช้ แต่อัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสูง
- สินเชื่อหมุนเวียนธุรกิจ : เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนสม่ำเสมอเพื่อซื้อสินค้าหรือวัตถุดิบ มีความยืดหยุ่นในการเบิกใช้และชำระคืน
- สินเชื่อรายย่อยเพื่อประกอบอาชีพ (Micro SME) : เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่มีความต้องการเงินทุนไม่มาก ขั้นตอนการขออนุมัติไม่ซับซ้อน
2. ตรวจสอบมาตรการความช่วยเหลือจากภาครัฐ
ปัจจุบัน ทั้งภาครัฐและสถาบันการเงินมีมาตรการช่วยเหลือสำหรับธุรกิจ SME ที่ประสบปัญหาเงินไม่พอใช้
- มาตรการ "สินเชื่อฟื้นฟู" ตามแนวทางความช่วยเหลือของธนาคารแห่งประเทศไทย
- มาตรการพิเศษพักชำระหนี้ช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อธุรกิจที่ต้องปิดกิจการชั่วคราว
- สินเชื่อธุรกิจดอกเบี้ยต่ำสำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤต
3. พิจารณาความสามารถในการชำระคืนอย่างรอบคอบ
ก่อนตัดสินใจใช้สินเชื่อธุรกิจ ควรประเมินความสามารถในการชำระคืนอย่างซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา
- วิเคราะห์กระแสเงินสดในแต่ละเดือนว่าจะมีเงินเหลือเพียงพอสำหรับการผ่อนชำระหรือไม่
- สร้างตารางการชำระคืนที่สอดคล้องกับกระแสเงินสดของธุรกิจ
- พยายามจ่ายมากกว่ายอดขั้นต่ำเมื่อมีกำไรดี เพื่อลดภาระดอกเบี้ย
4. ใช้สินเชื่อธุรกิจเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ไม่ใช่แค่แก้ปัญหา
สินเชื่อธุรกิจควรถูกใช้เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโต ไม่ใช่เพียงแค่แก้ปัญหาเงินไม่พอใช้
- ลงทุนในสิ่งที่จะช่วยเพิ่มยอดขายหรือลดต้นทุน เช่น อุปกรณ์ที่ทันสมัยที่ช่วยลดเวลาและแรงงาน
- ใช้เงินกู้เพื่อคว้าโอกาสพิเศษ เช่น ส่วนลดพิเศษจากการซื้อวัตถุดิบในปริมาณมาก
- พิจารณา ROI (ผลตอบแทนจากการลงทุน) ก่อนตัดสินใจใช้สินเชื่อทุกครั้ง
สรุป
การใช้เพื่อแก้ปัญหาเงินไม่พอใช้ในช่วงยอดขายตกต่ำเป็นกลยุทธ์ที่สมเหตุสมผล แต่ควรมองว่าเป็นเพียงหนึ่งในเครื่องมือบริหารการเงิน ไม่ใช่ทางออกเดียวหรือทางออกสุดท้าย
สินเชื่อธุรกิจที่ใช้อย่างชาญฉลาดสามารถช่วยให้ธุรกิจผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบาก และสร้างโอกาสเติบโตในอนาคต แต่การกู้เงินโดยขาดการวางแผนที่ดีอาจนำไปสู่ภาระหนี้สินที่เกินความสามารถในการชำระ
สุดท้ายแล้ว การแก้ปัญหาเงินไม่พอใช้อย่างยั่งยืนต้องอาศัยการปรับตัวรอบด้าน ทั้งการลดต้นทุน เพิ่มยอดขาย ปรับปรุงการบริหารการเงิน และใช้สินเชื่อธุรกิจอย่างเหมาะสม เพื่อให้ธุรกิจสามารถยืนหยัดและเติบโตต่อไปได้แม้ในช่วงเวลาที่ท้าทาย
สำหรับใครที่ต้องการเงินด่วน สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/
“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.ngernhaijai.com/
Line : https://bit.ly/3zDd5Kz
เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899
เผยแพร่ 17 เม.ย. 2568
บทความอื่น ๆ

ร้านอาหารขนาดเล็กขยายกิจการอย่างไร ด้วยสินเชื่อรถแลกเงิน
เจ้าของธุรกิจร้านอาหารขนาดเล็กเรียนรู้วิธีขยายกิจการด้วยสินเชื่อรถแลกเงิน พร้อมแนวทางการลงทุนที่คุ้มค่าและเคล็ดลับการบริหารเงินทุนอย่างชาญฉลาด
เผยแพร่ 17 เม.ย. 2568

ติดหนี้บัตรเครดิตอยู่ ขอสินเชื่อรถยนต์เพิ่มได้ไหม?
ติดหนี้บัตรเครดิตแต่อยากได้สินเชื่อรถ? เรียนรู้เงื่อนไขการขอสินเชื่อรถยนต์เมื่อมีภาระหนี้บัตรเครดิต พร้อมเคล็ดลับเพิ่มโอกาสอนุมัติ
เผยแพร่ 17 เม.ย. 2568

นาโนไฟแนนซ์ VS ไมโครไฟแนนซ์ VS สินเชื่อรถ เจ้าของธุรกิจเล็กควรเลือกอะไร?
เปรียบเทียบสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ สินเชื่อไมโคร และสินเชื่อรถ แบบเข้าใจง่าย เจ้าของธุรกิจเล็กควรเลือกแบบไหนให้เหมาะกับตัวเองที่สุด
เผยแพร่ 17 เม.ย. 2568