หนี้นอกระบบ
อายัดเงินเดือน

โดนฟ้องหนี้นอกระบบ ไม่มีสัญญา ทำอย่างไรได้บ้าง

"คิดว่าไม่มีสัญญากู้ยืมเป็นลายลักษณ์อักษร เจ้าหนี้คงฟ้องเราไม่ได้" ความเข้าใจผิดนี้กำลังทำให้หลายคนตกอยู่ในวังวนของการถูกทวงหนี้และการฟ้องร้องโดยไม่รู้ตัว การแก้ไขหนี้นอกระบบที่ไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรนั้นอาจซับซ้อนกว่าที่คิด แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่มีทางออก บทความนี้ เงินให้ใจจะพาคุณไปเรียนรู้วิธีรับมือเมื่อโดนฟ้องหนี้นอกระบบที่ไม่มีสัญญา และเส้นทางสู่การจัดการกับปัญหาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

โดนฟ้องหนี้นอกระบบ ไม่มีสัญญา

เข้าใจผิดว่า "ไม่มีสัญญา ฟ้องไม่ได้" ความจริงคืออะไร?

หลายคนเชื่อว่าหากไม่ได้เซ็นสัญญาเงินกู้เป็นลายลักษณ์อักษร เจ้าหนี้จะไม่สามารถฟ้องร้องได้ แต่นี่เป็นความเข้าใจผิดที่อันตราย ตามกฎหมายแล้ว การกู้ยืมเงินแม้ไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรก็สามารถถูกฟ้องร้องได้ หากมีหลักฐานอื่นที่แสดงถึงการกู้ยืมเงิน

หลักฐานอื่นที่เจ้าหนี้นอกระบบสามารถใช้ฟ้องร้องได้

1. ข้อความในแอปพลิเคชันสนทนา (ไลน์, เฟซบุ๊ก, WhatsApp) ที่มีการพูดคุยเกี่ยวกับการกู้ยืมเงิน จำนวนเงิน และกำหนดชำระ

2. หลักฐานการโอนเงิน จากบัญชีเจ้าหนี้ไปยังบัญชีของคุณ

3. พยานบุคคล ที่รับรู้ว่ามีการกู้ยืมเงินระหว่างคุณกับเจ้าหนี้

4. หลักฐานการชำระเงินบางส่วน ที่แสดงว่าคุณยอมรับว่ามีหนี้สินอยู่จริง

ศาลจะพิจารณาหลักฐานทั้งหมดประกอบกัน แม้ไม่มีสัญญากู้ยืมเงินที่เป็นลายลักษณ์อักษร แต่ถ้าหลักฐานอื่นๆ มีน้ำหนักเพียงพอ ศาลอาจพิพากษาให้ชำระหนี้ได้

ผลกระทบเมื่อโดนฟ้องหนี้นอกระบบและแพ้คดี

1. การถูกยึดหรืออายัดทรัพย์สิน

หากศาลมีคำพิพากษาให้ชำระหนี้แล้วไม่ปฏิบัติตาม เจ้าหนี้สามารถดำเนินการบังคับคดีโดยขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีเพื่อยึดหรืออายัดทรัพย์สินของคุณได้

2. การอายัดเงินเดือน

เจ้าหนี้อาจขอให้ศาลออกคำสั่งอายัดเงินเดือนของคุณได้ โดยกฎหมายกำหนดว่าสามารถอายัดเงินเดือนได้ไม่เกิน 30% ของเงินเดือน และต้องเหลือเงินเดือนสุทธิไม่น้อยกว่า 20,000 บาท เช่น

- หากลูกหนี้มีเงินเดือน 30,000 บาท อายัดได้สูงสุด 9,000 บาท (30% ของ 30,000)

- หากลูกหนี้มีเงินเดือน 45,000 บาท อายัดได้สูงสุด 13,500 บาท (30% ของ 45,000 ซึ่งเหลือ 31,500 บาท)

- หากลูกหนี้มีเงินเดือน 25,000 บาท อายัดได้สูงสุด 5,000 บาท (เนื่องจากถ้าอายัด 30% คือ 7,500 บาท จะเหลือเพียง 17,500 บาท ซึ่งน้อยกว่า 20,000 บาท จึงอายัดได้เพียง 5,000 บาท เพื่อให้เหลือ 20,000 บาท)

- แต่ถ้าคิดจากอัตราไม่เกิน 30% แล้ว เหลือไม่ถึง 20,000 บาท จะอายัดเงินเดือนเฉพาะส่วนที่เกินจาก 20,000 บาทเท่านั้น

3. ผลกระทบต่อประวัติเครดิต

การมีประวัติการถูกฟ้องร้องและบังคับคดีจะส่งผลต่อประวัติเครดิตของคุณ ทำให้การขอสินเชื่อในอนาคตเป็นไปได้ยากขึ้น หรืออาจต้องจ่ายดอกเบี้ยในอัตราที่สูงขึ้น

7 ขั้นตอนรับมือเมื่อโดนฟ้องหนี้นอกระบบไม่มีสัญญา

การถูกฟ้องร้องจากเจ้าหนี้นอกระบบโดยที่ไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรสร้างความตื่นตระหนกให้กับหลายคน แต่สิ่งสำคัญคือต้องไม่หนีปัญหา เพราะหนี้ไม่ได้หายไปเมื่อคุณเพิกเฉย แถมยังอาจทำให้สถานการณ์แย่ลงกว่าเดิม การเข้าใจขั้นตอนทางกฎหมายและการเตรียมตัวอย่างถูกต้องจะช่วยปกป้องสิทธิของคุณและอาจนำไปสู่ทางออกที่ดีกว่าที่คิด

1. อย่าหนีหรือเพิกเฉยต่อหมายศาล

เมื่อได้รับหมายศาล อย่าหนีหรือเพิกเฉย เพราะจะทำให้ศาลพิพากษาขาดนัดซึ่งจะเป็นผลเสียต่อลูกหนี้ การไม่ไปศาลตามนัดจะทำให้เสียโอกาสในการแก้ต่างหรือต่อสู้คดี

2. ปรึกษาทนายความโดยเร็ว

ควรปรึกษาทนายความที่มีประสบการณ์ด้านคดีหนี้นอกระบบทันทีที่ได้รับหมายศาล เพื่อให้ทนายช่วยวิเคราะห์สถานการณ์และวางแผนการต่อสู้คดี ทนายจะช่วยตรวจสอบว่า

- การกู้ยืมเงินนั้นถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่

- อัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่

- มีการข่มขู่ บังคับ หรือหลอกลวงให้กู้ยืมเงินหรือไม่

- หลักฐานที่เจ้าหนี้นำมาใช้ฟ้องร้องมีความน่าเชื่อถือเพียงใด

3. รวบรวมหลักฐานเพื่อต่อสู้คดี

ค้นหาและรวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการกู้ยืมเงิน เช่น ประวัติการโอนเงินย้อนหลัง ประวัติการชำระเงินที่เคยให้กับเจ้าหนี้ ข้อความการสนทนากับเจ้าหนี้ ใบเสร็จหรือหลักฐานการชำระเงินอื่นๆ

หลักฐานเหล่านี้อาจช่วยแสดงให้เห็นว่าได้มีการชำระหนี้ไปแล้วบางส่วน หรืออาจมีการคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

4. ยื่นคำให้การและข้อต่อสู้ต่อศาล

ทนายความจะช่วยในการยื่นคำให้การและข้อต่อสู้ต่อศาล ซึ่งอาจรวมถึงการโต้แย้งความถูกต้องของหลักฐานที่เจ้าหนี้นำมาใช้ การชี้แจงว่าอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด การแสดงให้เห็นว่าได้มีการชำระหนี้ไปแล้วบางส่วน หรือการชี้แจงพฤติกรรมไม่ชอบด้วยกฎหมายของเจ้าหนี้ (ถ้ามี)

5. เจรจาประนีประนอมก่อนศาลตัดสิน

การเจรจาประนีประนอมกับเจ้าหนี้ก่อนศาลมีคำพิพากษาเป็นทางเลือกที่ดี เพราะจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและความเครียดจากการดำเนินคดี โดยอาจเจรจาเพื่อลดจำนวนหนี้ลง ขยายระยะเวลาในการชำระหนี้ ลดหรือยกเลิกดอกเบี้ย และกำหนดแผนการผ่อนชำระที่เหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้

6. หาแหล่งเงินกู้ในระบบเพื่อปิดหนี้นอกระบบ

พิจารณาหาแหล่งเงินกู้ในระบบเพื่อนำมาชำระหนี้นอกระบบ ซึ่งจะมีดอกเบี้ยที่ถูกกว่าและมีเงื่อนไขที่เป็นธรรมกว่า เช่น

- สินเชื่อเพื่อการแก้ไขหนี้นอกระบบจากธนาคารของรัฐ

- สินเชื่อส่วนบุคคล

- สินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์

- สินเชื่อที่ใช้ทรัพย์สินเป็นประกัน เช่น บ้าน รถยนต์

7. ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ

มีหน่วยงานภาครัฐหลายแห่งที่ให้ความช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาหนี้นอกระบบ ไม่ว่าจะเป็น

- ศูนย์ดำรงธรรม โทร 1567

- สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) โทร 1157

- ศูนย์แก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ กระทรวงการคลัง โทร 1359

- สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) โทร 1166

ข้อควรรู้เกี่ยวกับกฎหมายหนี้นอกระบบ

1. ดอกเบี้ยสูงสุดตามกฎหมาย

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 654 กำหนดให้อัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สามารถเรียกเก็บได้ในการกู้ยืมเงินคือ 15% ต่อปี หรือประมาณ 1.25% ต่อเดือน หากเจ้าหนี้เรียกดอกเบี้ยเกินกว่านี้ ถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2. การทวงหนี้ที่ผิดกฎหมาย

พระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 กำหนดให้การทวงหนี้ต้องอยู่ในขอบเขตที่กฎหมายกำหนด ห้ามข่มขู่ คุกคาม ใช้ความรุนแรง หรือประจานลูกหนี้ หากเจ้าหนี้หรือผู้ทวงหนี้กระทำการเหล่านี้ ถือเป็นความผิดและมีโทษทางอาญา

สรุป

การโดนฟ้องหนี้นอกระบบที่ไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องแพ้คดีโดยอัตโนมัติ ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิตามกฎหมายและการดำเนินการอย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับสถานการณ์นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หัวใจสำคัญในการแก้ไขหนี้นอกระบบคือการไม่หนีปัญหา แต่เผชิญหน้ากับมันอย่างมีสติ พยายามขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมาย รวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง พิจารณาเจรจาประนีประนอมหากเป็นไปได้ และลองหาแหล่งเงินกู้ในระบบเพื่อปิดหนี้นอกระบบ

การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอาจใช้เวลาและความอดทน แต่ด้วยความพยายามและความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ คุณสามารถผ่านพ้นวิกฤตนี้และเริ่มต้นชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

สำหรับใครที่ต้องการเงินด่วน สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/

“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Website : https://www.ngernhaijai.com/

Line : https://bit.ly/3zDd5Kz

เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899

เผยแพร่ 17 เม.ย. 2568

บทความอื่น ๆ

สมัครสินเชื่อไม่ผ่าน

รวมเหตุผลสำคัญ ที่ทำให้คุณขอสินเชื่อไม่ผ่านสักที

เปิดเผยสาเหตุหลักที่ทำให้สมัครสินเชื่อไม่ผ่าน ทั้งปัญหาหนี้เสีย หนี้เสียบัตรเครดิต พร้อมแนวทางปรับปรุงเพื่อเพิ่มโอกาสผ่านการอนุมัติในครั้งต่อไป

เผยแพร่ 17 เม.ย. 2568

ลูกหนี้

บริหารลูกหนี้แบบมือโปร! เข้าใจลูกหนี้-เจ้าหนี้ในธุรกิจให้ดีขึ้น

รู้เทคนิคการจัดการลูกหนี้อย่างเป็นระบบ ป้องกันหนี้เสียตั้งแต่ต้นทาง และแนวทางการปรับโครงสร้างหนี้ที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคง

เผยแพร่ 17 เม.ย. 2568

สินเชื่อรถยนต์

รู้ก่อนกู้! ธนาคารคิดอย่างไรกับภาระหนี้ของคุณ?

เข้าใจหลักเกณฑ์ที่ธนาคารใช้ประเมินความสามารถในการชำระหนี้ เรียนรู้วิธีเพิ่มโอกาสอนุมัติสินเชื่อรถยนต์

เผยแพร่ 17 เม.ย. 2568