ร้อนจัด! 10 วิธีดูแลรถให้พร้อมใช้งาน

อากาศร้อนจัดในประเทศไทยเป็นศัตรูตัวร้ายของรถยนต์ เมื่ออุณหภูมิพุ่งสูงถึง 40 องศาเซลเซียส ชิ้นส่วนต่างๆ ของรถต้องทำงานหนักกว่าปกติมาก โดยเฉพาะระบบหล่อเย็น แบตเตอรี่รถ และเครื่องปรับอากาศ การดูแลรถในช่วงหน้าร้อนจึงมีความสำคัญเป็นพิเศษเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและยืดอายุการใช้งานของรถยนต์ การละเลยการดูแลรักษารถยนต์ในช่วงอากาศร้อนจัดอาจนำไปสู่ปัญหาหลายอย่าง เช่น เครื่องยนต์ร้อนจัดจนดับกลางทาง แบตเตอรี่รถหมดอายุเร็วกว่ากำหนด หรือระบบปรับอากาศทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งล้วนเป็นสถานการณ์ที่ไม่มีใครต้องการเจอ โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อนระอุ วันนี้ เงินให้ใจจะมาแนะนำ 10 วิธีดูแลรถในหน้าร้อนที่ทุกคนสามารถทำได้ง่ายๆ เพื่อให้รถพร้อมใช้งานแม้ในสภาพอากาศที่ร้อนจัด

1. ตรวจสอบระดับและคุณภาพน้ำหล่อเย็น

น้ำหล่อเย็นเป็นหัวใจสำคัญของการระบายความร้อนให้เครื่องยนต์ ในช่วงหน้าร้อน ควรตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นอย่างสม่ำเสมอและเติมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม (ระหว่างขีด MIN และ MAX) อย่าใช้น้ำเปล่าทดแทนน้ำหล่อเย็น เพราะน้ำหล่อเย็นมีคุณสมบัติพิเศษในการป้องกันการกัดกร่อนและมีจุดเดือดสูงกว่าน้ำธรรมดา

นอกจากนี้ ควรสังเกตสีของน้ำหล่อเย็นด้วย หากมีสีคล้ำผิดปกติหรือมีตะกอน ควรเปลี่ยนน้ำหล่อเย็นทันที เพราะอาจส่งผลให้ระบบระบายความร้อนทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

2. ตรวจสอบและบำรุงรักษาแบตเตอรี่รถ

แบตเตอรี่รถเป็นอีกหนึ่งชิ้นส่วนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากความร้อน อุณหภูมิสูงทำให้สารละลายภายในแบตเตอรี่รถระเหยเร็วขึ้น ส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ควรตรวจสอบแบตเตอรี่รถโดย

- สังเกตขั้วแบตเตอรี่ว่ามีคราบขาวหรือสีเขียวหรือไม่ หากมี ให้ทำความสะอาดด้วยแปรงลวดและสารละลายโซดาเบกกิ้ง

- ตรวจสอบระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่รถแบบเติมน้ำได้ (ไม่ต้องทำสำหรับแบตเตอรี่แบบซีล)

- หากแบตเตอรี่มีอายุการใช้งานมากกว่า 2-3 ปี ควรพิจารณาเปลี่ยนก่อนเข้าสู่ฤดูร้อน

3. ตรวจสอบระบบปรับอากาศ

ระบบปรับอากาศที่ทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพจะทำให้การเดินทางในหน้าร้อนเป็นเรื่องทรมาน ควรดูแลรถโดยตรวจสอบ

- ความเย็นของแอร์ ถ้าไม่เย็นเหมือนเดิม อาจมีปัญหาที่น้ำยาแอร์หรือคอมเพรสเซอร์

- แรงลมจากช่องแอร์ หากแรงลมน้อยลง อาจมีฝุ่นอุดตันที่แผ่นกรองอากาศ

- กลิ่นอับหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์จากเครื่องปรับอากาศ ซึ่งอาจเกิดจากเชื้อราในระบบ

หากพบปัญหาใดๆ ควรนำรถเข้าศูนย์บริการหรือร้านแอร์รถยนต์เพื่อทำการตรวจเช็คและซ่อมบำรุง

4. ดูแลยางรถยนต์

ยางรถยนต์ได้รับผลกระทบโดยตรงจากพื้นถนนที่ร้อนระอุ การดูแลรักษารถยนต์ในส่วนของยางควรทำดังนี้

- ตรวจสอบลมยางสม่ำเสมอ ความร้อนทำให้ลมยางขยายตัว ควรตรวจวัดเมื่อยางเย็น (ไม่ได้ขับมาไกล)

- สังเกตการสึกหรอของดอกยาง หากสึกไม่เท่ากันอาจมีปัญหาเรื่องศูนย์ล้อหรือช่วงล่าง

- หลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดดเป็นเวลานาน เพราะทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

- หมั่นสลับยางตามระยะทางที่แนะนำในคู่มือรถยนต์

5. ทำความสะอาดและเคลือบสีรถ

แสงแดดจัดไม่เพียงทำให้สีรถซีดจางแต่ยังทำลายชั้นเคลือบเงาด้วย การดูแลรถในส่วนของตัวถังและสีควรทำดังนี้

- ล้างรถเป็นประจำเพื่อกำจัดฝุ่นและสิ่งสกปรกที่อาจทำลายสีรถ

- เคลือบแว็กซ์อย่างน้อย 3-4 เดือนต่อครั้ง เพื่อปกป้องสีรถจากรังสี UV

- พิจารณาการเคลือบเซรามิกหรือฟิล์มกันความร้อนที่มีคุณภาพ

- ใช้ผ้าคลุมรถหากต้องจอดกลางแจ้งเป็นเวลานาน

6. ตรวจสอบระบบระบายความร้อน

นอกจากน้ำหล่อเย็นแล้ว ระบบระบายความร้อนยังประกอบด้วยชิ้นส่วนอื่นๆ ที่ควรดูแลรักษารถยนต์

- ตรวจสอบพัดลมระบายความร้อนว่าทำงานปกติหรือไม่

- สังเกตหม้อน้ำว่ามีการรั่วซึมหรือมีสนิมหรือไม่

- ตรวจสอบสายพานว่ามีรอยแตกหรือหย่อนเกินไปหรือไม่

- ทำความสะอาดรังผึ้งหม้อน้ำ (ส่วนหน้าของหม้อน้ำ) จากฝุ่นและแมลงที่อาจขัดขวางการระบายความร้อน

7. ตรวจสอบน้ำมันเครื่อง

น้ำมันเครื่องมีหน้าที่หล่อลื่นและช่วยระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ ในสภาพอากาศร้อน การดูแลรถในส่วนนี้ควรทำโดย

- ตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่องบ่อยกว่าปกติ

- สังเกตสีและความข้นของน้ำมันเครื่อง หากมีสีดำคล้ำหรือข้นเหนียวผิดปกติ ควรเปลี่ยนทันที

- พิจารณาเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่กำหนดหรือเร็วกว่าหากขับขี่ในสภาพอากาศร้อนจัดบ่อยๆ

- เลือกใช้น้ำมันเครื่องที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อน (มักมีตัวเลขหลังตัว W สูง เช่น 10W-40 หรือ 20W-50)

8. ติดตั้งฟิล์มกรองแสงคุณภาพดี

การติดฟิล์มกรองแสงคุณภาพดีเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลรักษารถยนต์ในหน้าร้อนที่หลายคนมองข้าม ฟิล์มคุณภาพดีช่วย

- ลดความร้อนที่เข้าสู่ห้องโดยสารได้ถึง 50-60%

- ป้องกันรังสี UV ที่ทำลายเบาะและอุปกรณ์ภายในรถ

- ประหยัดพลังงานจากการใช้เครื่องปรับอากาศ

- ป้องกันความเป็นส่วนตัวและลดแสงสะท้อนรบกวน

ควรเลือกฟิล์มที่มีค่า Total Solar Energy Rejected (TSER) สูงๆ เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนที่ดี

9. อย่าปล่อยให้น้ำมันเหลือน้อย

หลายคนอาจไม่ทราบว่าการขับรถโดยมีน้ำมันเหลือน้อยในถังเป็นประจำส่งผลเสียในหน้าร้อน น้ำมันในถังช่วยระบายความร้อนให้กับปั๊มน้ำมัน การมีน้ำมันน้อยทำให้ปั๊มร้อนจัดและเสื่อมสภาพเร็ว การดูแลรถจึงควร

- พยายามเติมน้ำมันให้อยู่ในระดับครึ่งถังขึ้นไปเสมอ

- หลีกเลี่ยงการขับขี่จนน้ำมันเหลือน้อยกว่า 1/4 ถัง

- เลือกใช้น้ำมันที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับรถยนต์

10. จอดรถในที่ร่มหรือใช้ที่บังแดด

วิธีง่ายๆ แต่ได้ผลดีเยี่ยมในการดูแลรถหน้าร้อนคือการจอดในที่ร่มหรือใช้อุปกรณ์บังแดด

- พยายามหาที่จอดในร่มหรือใต้อาคาร

- ติดตั้งม่านบังแดดที่กระจกหน้าและหลังเมื่อจอดรถนานๆ

- ใช้ผ้าคลุมรถกันความร้อนหากต้องจอดกลางแจ้งเป็นเวลานาน

- วางแผนการจอดรถโดยคำนึงถึงการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์ เพื่อให้รถได้รับแสงแดดน้อยที่สุด

สรุป

การดูแลรถยนต์ในช่วงหน้าร้อนเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้รถของคุณพร้อมใช้งานอยู่เสมอและยืดอายุการใช้งานของชิ้นส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่รถ ระบบหล่อเย็น หรือระบบปรับอากาศ การดูแลเบื้องต้นที่กล่าวมาข้างต้นสามารถทำได้ง่ายและไม่ใช้เวลามากนัก แต่จะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงปัญหาใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นและสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมในอนาคต

สำหรับใครที่ต้องการเงินด่วน สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/

“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Website : https://www.ngernhaijai.com/

Line : https://bit.ly/3zDd5Kz

เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899