โดนหลอกโอนเงิน แจ้งความอย่างไรให้ได้เงินคืน

ในยุคที่การโอนเงินกลายเป็นเรื่องง่ายแค่ปลายนิ้ว กลับกลายเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพสร้าง “รายได้” โดยใช้ความไว้ใจ ความรีบ หรือแม้แต่ความโลภเล็กๆ ของเราเป็นเครื่องมือ เมื่อรู้ตัวอีกที เงินก็หลุดมือไปแล้ว แล้วแบบนี้…เราจะมีทาง “เอาคืน” ได้แค่ไหน? การแจ้งความยังช่วยอะไรได้อยู่ไหม? แล้วถ้าเราอยากได้เงินคืน ต้องเริ่มจากตรงไหน? บทความนี้ เงินให้ใจจะตอบทุกคำถาม และพาไปดูขั้นตอนที่ถูกต้องในการ “แจ้งความโดนหลอกโอนเงิน ออนไลน์” เพื่อเพิ่มโอกาสในการ “หลอกโอนเงิน ได้เงินคืน” ให้ได้มากที่สุด

เข้าใจก่อน มิจฉาชีพทำงานยังไง?

การหลอกให้โอนเงินมีหลากหลายรูปแบบมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่การปลอมเป็นร้านค้าออนไลน์, อ้างว่าเป็นบริษัทใหญ่, ปลอมเป็นคนรู้จัก, แกล้งโทรเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรือแม้แต่การให้กู้เงินด่วนที่ไม่มีอยู่จริง

เป้าหมายเดียวของพวกเขาคือ “ทำให้คุณโอนเงินให้เร็วที่สุด โดยไม่ทันเช็กข้อมูล” เมื่อคุณโอนแล้ว พวกเขาจะรีบโอนต่อไปยังบัญชีอื่น ถอนเป็นเงินสด หรือแปลงเป็นคริปโตเพื่อหนีการติดตาม โดยใช้เครือข่ายบัญชีม้าและบัญชีปลอมที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ เพราะฉะนั้น “เวลา” คือสิ่งสำคัญที่สุดในการตามเงินกลับคืน

สิ่งที่ต้องทำทันทีหลังรู้ตัวว่าโดนหลอก

1. ตั้งสติ และหยุดโอนต่อทันที – หลายคนรู้ตัวว่าถูกหลอก แต่ยังถูกหลอกซ้ำ เช่น มีการอ้างว่าจะคืนเงินถ้าโอนเพิ่ม ซึ่งยิ่งทำให้เสียเงินมากขึ้น

2. รวบรวมหลักฐานให้ครบที่สุด – สลิปการโอน, ชื่อบัญชีปลายทาง, แชตที่ใช้ในการหลอกลวง, รูปภาพ โพสต์ หรือเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง ถ้ามีหน้าจอการโทรก็เก็บไว้ด้วย

3. แจ้งความออนไลน์ทันที – เข้าเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com แล้วเลือกหัวข้อ “แจ้งความโดนหลอกโอนเงิน ออนไลน์” เพื่อให้เจ้าหน้าที่รับเรื่องไว้และดำเนินการตามขั้นตอน

4. โทรแจ้งธนาคารของบัญชีปลายทาง – ขอยื่นเรื่องอายัดบัญชี และถ้ามีเลขที่รับแจ้งความหรือเลขคดีแนบไปด้วย จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ธนาคารประสานงานกับตำรวจได้เร็วขึ้น

5. ติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง – อย่าปล่อยให้เรื่องเงียบ ให้สอบถามความคืบหน้าเป็นระยะ เช่น การออกหมายเรียก, การสืบเจ้าของบัญชี หรือการอายัดเงินที่ค้างอยู่ในบัญชี

การแจ้งความออนไลน์ ดีกว่าไปโรงพักจริงไหม?

การ “แจ้งความโดนหลอกโอนเงิน ออนไลน์” มีข้อดีตรงที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง ไม่ต้องรอคิว และมีระบบเก็บหลักฐานที่เป็นทางการ คุณสามารถแนบไฟล์เอกสาร รูปภาพ และลิงก์ทั้งหมดผ่านระบบได้ทันที ตำรวจจะตรวจสอบเบื้องต้นแล้วโทรกลับเพื่อนัดหมาย หากเรื่องร้ายแรงหรือมีมูลมากพอ อาจส่งต่อให้หน่วยเฉพาะทางเช่น กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (PCT) หรือศูนย์ PCT 1212

แม้จะเป็นการแจ้งออนไลน์ แต่ผลทางกฎหมายยังคงเหมือนการแจ้งที่สถานีตำรวจ เพราะจะมีการออกเลขรับแจ้งความ และสามารถนำไปใช้ยื่นเรื่องกับธนาคารเพื่ออายัดบัญชีได้ทันที

แล้วเราจะได้เงินคืนจริงไหม?

คำถามนี้ไม่มีคำตอบเดียว เพราะ “โอกาสได้เงินคืน” ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยมาก เช่น

- โอนเงินไปนานแค่ไหนแล้ว

- เงินถูกถอนหรือโอนต่อหรือยัง

- เจ้าของบัญชีปลายทางเป็นใคร มีตัวตนจริงหรือบัญชีม้า

- ธนาคารให้ความร่วมมือแค่ไหน

- ตำรวจสามารถติดตามตัวคนร้ายได้เร็วแค่ไหน

แต่มีเคสจริงจำนวนไม่น้อยที่สามารถ “หลอกโอนเงิน ได้เงินคืน” โดยเฉพาะเมื่อสามารถอายัดบัญชีได้ทัน หรือในกรณีที่คนร้ายถูกจับได้แล้วศาลมีคำสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหาย

ถ้าไม่ได้คืน ควรทำอย่างไร?

แม้ว่าสุดท้ายเงินที่สูญไปอาจไม่ได้กลับมาในทันที หรือไม่สามารถตามคืนได้เลยในบางกรณี แต่การ แจ้งความ และดำเนินการอย่างถูกต้องตามขั้นตอน ยังเป็นสิ่งที่ "จำเป็นและสำคัญมาก" เพราะมันคือการปกป้องทั้งตัวคุณและสังคมในระยะยาว

1. ช่วยให้ตำรวจมีข้อมูลสะสมคดีเพื่อออกหมายจับได้ง่ายขึ้น

หลายคดีมิจฉาชีพใช้บัญชีเดิมหลอกเหยื่อหลายราย การแจ้งความของคุณจึงอาจเป็นหนึ่งในเบาะแสสำคัญที่เชื่อมโยงไปสู่การระบุตัวผู้กระทำผิดได้ชัดเจนมากขึ้น และเมื่อตำรวจมีข้อมูลประกอบกันมากพอ ก็จะสามารถออกหมายเรียกหรือหมายจับได้เร็วขึ้น

2. ช่วยให้ธนาคารสามารถอายัดหรือปิดบัญชีต้องสงสัย

หากมีการแจ้งความและธนาคารได้รับเอกสารจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ธนาคารสามารถดำเนินการอายัดบัญชีได้ตามระเบียบภายใน ซึ่งไม่เพียงแค่ป้องกันความเสียหายจากเคสของคุณเท่านั้น แต่ยังช่วย หยุดไม่ให้บัญชีนี้ถูกใช้หลอกคนอื่นต่อไป

ในบางกรณี หากมีเงินค้างอยู่ในบัญชี ยังอาจสามารถขอคืนผ่านกระบวนการทางกฎหมายหรือคำสั่งศาลได้ด้วย

3. ปกป้องคนอื่นจากการตกเป็นเหยื่อรายต่อไป

การที่คุณออกมาแจ้งความหรือแชร์ประสบการณ์ของตัวเอง เป็นการ “เบรก” แผนการของมิจฉาชีพไม่ให้เล่นงานเหยื่อคนอื่นซ้ำอีก บางรายใช้เพจปลอมที่มีคนติดตามหลักหมื่น หรือแอบอ้างบริษัทจริงที่ดูน่าเชื่อถือ การที่มีคนกล้าพูดออกมา อาจช่วยเตือนภัยให้คนอื่นรู้เท่าทันและไม่ตกหลุมพรางเดิม

4. เพิ่มแรงกดดันทางกฎหมายให้มิจฉาชีพต้องรับผิด

แม้ไม่สามารถเอาเงินคืนได้ทันที แต่การแจ้งความทำให้ผู้กระทำผิด “มีประวัติ” ในระบบกฎหมาย หากเขาถูกดำเนินคดีในอนาคต ไม่ว่าจะในคดีเดียวกันหรือคดีอื่น ข้อมูลที่คุณแจ้งไว้ก็จะถูกนำมาพิจารณาประกอบได้

บางราย เมื่อศาลตัดสินว่าผิดจริงและมีคำสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหาย คุณจะสามารถใช้คำพิพากษานั้นไปยื่นเรื่องบังคับคดี หรือแจ้งให้เจ้าหน้าที่รัฐติดตามทรัพย์สินของจำเลยได้ต่อไป

5. ขอรับเงินเยียวยาจากกองทุนช่วยเหลือผู้เสียหายได้ (ในบางกรณี)

กรณีที่คดีมีความชัดเจน และศาลมีคำตัดสินแล้ว ผู้เสียหายบางรายอาจสามารถยื่นขอเงินเยียวยาจากกองทุนยุติธรรม หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ โดยเฉพาะหากผู้กระทำผิดไม่มีทรัพย์สินในการชดใช้เงินคืน แม้จะไม่ได้เงินคืนเต็มจำนวน แต่อย่างน้อยก็อาจได้รับการชดเชยบางส่วนตามกฎหมาย

สรุป

การ “โดนหลอกโอนเงิน” เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวัน ยิ่งเราแชร์เรื่องราวและแจ้งความอย่างเป็นระบบ ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสในการตามเงินกลับคืนมา และช่วยให้ระบบยุติธรรมไทยเข้มแข็งขึ้น

หากคุณหรือคนใกล้ตัวเคยตกเป็นเหยื่อ อย่าคิดว่า “เสียไปแล้วก็ช่างมัน” เพราะเงินที่เสียไป อาจกลับคืนมาได้ถ้าเราไม่ยอมแพ้ตั้งแต่แรก พยายามแจ้งความให้ไว รวบรวมหลักฐานให้ครบ ยิ่งเร็ว ยิ่งมีโอกาส “ได้เงินคืน” มากขึ้น

สำหรับใครที่ต้องการเงินด่วน สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/

“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Website : https://www.ngernhaijai.com/

Line : https://bit.ly/3zDd5Kz

เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899